Location เป็นปัจจัยหลักที่สำคัญที่สุด ไม่ว่าจะหาที่สร้างบ้านเอง หรือ เลือกซื้อตามหมู่บ้านจัดสรร
ถ้าเพื่อนๆ ซื้อที่ดินตามหมู่บ้านจัดสรร ก็คงง่ายหน่อย เพราะถ้าเป็นโครงการของบริษัทใหญ่ๆ เช่น พฤกษา, Land and House, Quality House, Asian Property, ฯลฯ เค้าก็คัดสรรที่ดินที่เหมาะสมมาให้เพื่อนๆ แล้ว ในระดับหนึ่ง ที่เหลือก็แค่ ดูว่ามันเดินทางสะดวกไหม สภาพแวดล้อมรอบๆ โครงการดีไหม และการเดินทางสะดวกแค่ไหน ก็น่าจะโอเค (หลังๆ อาจต้องดูประวัติว่าเคยน้ำท่วมด้วยไหม ถ้าจะให้ดี ให้เป็น จังหวัดกรุงเทพฯ ไว้ ดูเหมือนว่า ผู้ว่า กทม. ยังมีอำนาจ เล็กๆ ในการช่วยป้องกันความเสียหายได้มากกว่า ตจว. ที่ผู้ว่า ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง)
ข้อคิดเล็กในการเลือกโครงการจัดสรร : ควรหาข้อมูลเพิ่มเติมว่า พื้นที่ที่สร้างหมู่บ้านนั้น แต่เดิมมีการใช้ประโยชน์อะไรมาก่อน เพราะผมพบว่าหลายครั้ง มันเป็นบ่อดินมาก่อน ซึ่งก็หมายความว่า ที่ดินนั้นๆ ถูกขุดหน้าดินไปขาย เป็นความลึกหลายสิบเมตร ในอดีตที่ยังไม่เจริญ พอระแวกนั้นเจริญขึ้น ที่ดินมีราคาก็ขายให้บริษัทหมู่บ้านจัดสรรในราคาถูก (เพราะต้องถมเยอะมาก กว่าจะมีระดับเสมอที่ดินเดิม) เพื่อพัฒนาโครงการจัดสรร
ตามธรรมชาติของบริษัทฯ ก็จะถมดิน และก่อสร้างในทันที ไม่รอให้ดินถมเซ็ตตัวเลย จริงๆ น่าจะรอสักสองฝน เพื่อให้ดินยุบตัวและแน่นเพียงพอ (แต่ใครจะรอหล่ะ ดอกเบี้ยเดินทุกวันนะ) ดังนั้นผลที่เกิดขึ้นคือ ส่วนใหญ่แล้วบ้านในหมู่บ้านจัดสรร พื้นที่รอบๆ บ้าน และใต้บ้าน มันจะทรุด ทำให้ในอนาคต ปี สองปี เพื่อนๆ ต้องเสียสตางค์ ในการทำพื้นโรงรถ ลานซักล้าง หรือ ลานรอบบ้านใหม่ ทั้งนี้ไม่ได้หมายความว่า ตัวบ้านต้องทรุดด้วยนะครับ คือต้องทำความเข้าใจกันก่อนว่าที่ทรุดคือดินที่เค้าถมมาใหม่ๆ ซึ่งยังไม่แน่น แต่โครงสร้างตัวบ้านตั้งอยู่บนเสาเข็มซึ่งลึกถึง 20 เมตร โดยประมาณสำหรับ กทม. จึงไม่เกี่ยวกัน
ผลเสียอีกอย่างก็คือ พอดินใต้บ้านทรุดมากๆ ก็อาจเป็นที่อาศัยของสัตว์ร้ายไม่พึงประสงค์ เช่น งู หนู ฯลฯ ดังนั้นก็ควรหาดินมาถมให้เรียบร้อยครับ
location ทำเลที่ดิน